Joker: Folie à Deux movie review

Joker: Folie à Deux movie review

Blog Article

รีวิวหนัง "Joker: Folie à Deux โจ๊กเกอร์ โฟลีย์ อา เดอ"

ข้อมูลหนัง: Joker: Folie à Deux โจ๊กเกอร์ โฟลีย์ อา เดอ

ประเภท: อาชญากรรม / ดรามา / มิวสิคัล

ผู้กำกับ: ทอดด์ ฟิลิปส์

นำแสดงโดย: วาคีน ฟินิกซ์, เลดี้ กาก้า, แคเทอรีน คีเนอร์

ความยาว: 138 นาที

กำหนดฉายในไทย: 2 ตุลาคม 2024 (ในโรงภาพยนตร์)

 

เรื่องย่อ

การกลับมาของภาพยนตร์ Joker ภาค 2 มีชื่อว่า Joker: Folie À Deux (2024) เล่าเรื่องราวภาคต่อของ "อาเธอร์ แฟล็ก" นักแสดงตลกผู้ล้มเหลวในชีวิตและมีปัญหาทางจิต หลังจากก่ออาชญากรรมในฐานะ "โจ๊กเกอร์" เขาก็ถูกส่งตัวไปคุมขังในสถานกักขัง ระหว่างที่กำลังรอการพิจารณาคดี เขาก็ได้พบกับหญิงสาว "ฮาร์ลีย์ ควินน์" หรือที่เขาเรียกว่า "ลี" ผู้เข้ามาจุดประกายเสียงเพลงในตัวเขา ทำให้อาเธอร์ก็ได้ค้นพบเสียงดนตรีที่ซ่อนอยู่ในตัวเขามาเนิ่นนาน และนำเขาไปสู่โลกจินตนาการอันสวยงาม เพื่อหลีกหนีจากโลกแห่งความจริง หนังใหม่

 

สำหรับ Joker 2 หรือ Joker: Folie à Deux โจ๊กเกอร์ โฟลีย์ อา เดอ เป็นหนังที่สานต่อเรื่องราวจาก Joker ที่เคยเข้าฉายในปี 2019 ถ่ายทอดชีวิตอีก 2 ปีถัดมา หลังจากที่ตัวละคร อาเธอร์ แฟล็ก ได้สวมบทบาท "โจ๊กเกอร์" และไปก่อคดีอาชญากรรมในรายการ เดอะ เมอร์เรย์ แฟรงคลิน โชว์ ทำให้เขากลายเป็นอาชญากรที่โด่งดังไปทั่วสหรัฐอเมริกา มีทั้งกลุ่มคนที่เกลียดชังและคลั่งไคล้ ตลอดจนถูกตั้งคำถามว่าการกระทำดังกล่าวของ อาเธอร์ แฟล็ก มาจากเจตนาฆ่าจริงๆ หรือเพราะอาการทางจิตของเขา

 

สิ่งที่เห็นได้ชัดใน Joker ภาค 2 ก็คือ โทนหนังมีความแตกต่างออกไป เนื่องจากมีพาร์ทของมิวสิคัลและการแสดงโชว์ที่เพิ่มเข้ามา ซึ่งเป็นแนวคิดของทางด้านผู้กำกับ ท็อด ฟิลลิปส์ ที่มองว่าอาเธอร์คือตัวละครที่มีดนตรีในหัวใจมาตั้งแต่ภาคแรก ไม่ว่าเขาจะรู้หรือไม่รู้ตัวก็ตาม แต่เมื่อเขาอยู่ในบทบาทของโจ๊กเกอร์ ท่วงท่าการเคลื่อนไหวก็เปลี่ยนไปราวกับการเต้นรำตามจังหวะทำนองดนตรี

 

ดังนั้น การเข้ามาของตัวละครลี (เลดี้ กาก้า) ไม่เพียงแค่ทำให้อาเธอร์ตกหลุมรัก แต่เธอยังแสดงความเข้าอกเข้าใจในความเจ็บปวดของเขา โดยเฉพาะการนำดนตรีมาเป็นสื่อกลาง ราวกับบทสนทนาสุดโรแมนติกของทั้งคู่ ที่ชวนให้อาเธอร์เคลิบเคลิ้ม โหยหาอดีตอันเปราะบาง อีกทั้งจุดประกายโลกแห่งจินตนาการอันแสนสวยงาม ซึ่งสวนทางกับโลกแห่งความจริงที่เขากำลังเผชิญ

 

ความโหดร้ายที่เขาต้องเผชิญ ทั้งการเป็นเหยื่อของความรุนแรง การถูกกลั่นแกล้งทุกรูปแบบ ตลอดจนปมปัญหาครอบครัวในวัยเด็ก ในอีกแง่หนึ่งตัวละครอาเธอร์ แฟล็ก ก็คือผลผลิตของสังคมบิดเบี้ยว ที่เปลี่ยนเขาให้กลายเป็น "โจ๊กเกอร์" ส่วนที่ประทับใจที่สุด ก็คงต้องยกให้กับพลังการแสดงของ "วาคิน ฟีนิกซ์" ที่ยังคงตราตรึงเช่นเดิม การเล่าเรื่องราวของโจ๊กเกอร์ในภาคนี้ มีมุมที่น่าสนใจมากขึ้น ฉากในชั้นศาลหรือการสะท้อนภาพจินตนาการในหัวของโจ๊กเกอร์ งดงามและหม่นหมองในคราวเดียวกัน

 

ภาคนี้เรายังจะได้เห็นตัวตนของอาเธอร์ในฐานะคนธรรมดามากขึ้นอีกด้วย มนุษย์ที่มี "ความหวัง" และอยากจะ "เริ่มต้นชีวิตใหม่" ทว่าทุกสิ่งต้องพังทลายลง ขณะที่ผู้คนที่รายล้อมเขาก็หวังที่จะเห็นเขาในบทบาทโจ๊กเกอร์... ไม่ใช่ในฐานะมนุษย์คนหนึ่งที่ชื่อ อาเธอร์ แฟล็ก ในพาร์ทมิวสิคัล เรียกได้ว่าเป็นความทะเยอทะยานและเป็นงานเล่นของยากของตัวผู้กำกับและนักแสดงที่หยิบมิวสิคัลมาใส่ในหนังแนวอาชญากรรม แม้จะมีเพลงเด่นอย่าง "Close To You" ของวง Carpenters ที่เลดี้ กาก้า นำมาร้อง รวมถึงบทเพลงอื่นๆ

 

ความรู้สึกหลังรับชมภาพยนตร์

เป็นความรู้สึกจากคนที่ไม่ใช่สายเซียนวงการหนัง ไม่ใช่แฟนพันธุ์แท้ DC เป็นคนดูทั่วๆ ไปที่ช่วงหลังๆ ก็ค่อนข้างห่างการดูหนังไปสักระยะ แต่พื้นฐานเราชอบหนังสาย musical และชอบ Batman dark knight กับ Joker (2019) ในระดับนึง พอเห็นทีเซอร์ของภาค Joker folie à deux ก็จดลง calendar เลยว่า ต้องมาดูในโรงให้ได้ เพราะภาคต่อนี้มันดูน่าสนใจมากๆ  hd-2u.com

 

ก่อนมาดูหนัง เราเจอรีวิวภาคนี้ในเชิงลบค่อนข้างเยอะมากกก ที่ดีๆ หน่อยก็มาแนวแบบ mixed feeling แต่ก็ยังอยากดู เพราะ joker คือ villains ที่เราทั้งชอบและกลัวในเวลาเดียวกัน (เป็นคนกลัวตัวตลกมาตั้งแต่เด็กๆ พอเอาตัวละครนี้มาทำให้ดูเป็นอาชญากรคลั่งๆ หัวเราะจิตๆ เลยทั้งกลัวและน่าสนใจ conflict มากฉันนน) แต่ด้วยรีวิวก็..โอเค เตรียมใจมาแล้วล่ะว่าอาจมีเรื่องที่ไม่ว้าวนะ

 

เรื่องราวภาคนี้เกี่ยวกับโจ๊กเกอร์หรือ ‘อาเธอร์ เฟล็ก’ ที่มาใช้ชีวิตอยู่ในคุก หลังจากก่ออาชญากรรม ทำให้เหยื่อเสียชีวิตหลายต่อหลายคน แต่ในภาคที่แล้วก็มีกลุ่มแฟนคลับที่ชื่นชอบเขาในบทบาทโจ๊กเกอร์บ้าคลั่งนั้นด้วย และเรื่องราวในภาคนี้จะเน้นเล่าเรื่องราวสลับกับการพิจารณาคดีของเขา จะมีพยานในเหตุการณ์มาขึ้นศาล รวมถึงข้อสนับสนุนทางจิตวิทยาเพื่อโยงอาการทางจิตของชายคนนี้ และการสู้กับ alternate personality ในตัวของเขาด้วย ดูแล้วก็ลุ้นๆ ร่างพี่โจ๊กจะออกมาตอนไหน

 

แน่นอนว่าหนังนำเสนอคุกในรูปแบบที่ดูแล้วไม่น่าอยู่เลย เหมือนฝันร้าย .. และอาเธอร์อยู่แบบโดนกดอยู่ในช่วงแรกๆ แล้วก็เป็นไปตามทีเซอร์เลยค่ะ ที่เนื้อหาในภาคนี้เขาจะได้เจอกับลี (หรือฮาร์ลี ควินน์) นำเสนอซีนในโลกแฟนตาซีและเล่าถึงความกระหายบ้าคลั่งของทั้งสองคน ซึ่งโทนมันอาจคล้าย La La Land ในบางช่วง แต่ว่ามันก็แค่ส่วนนึง เนื้อหาส่วนมากในหนังมันไม่ได้สุนทรีย์ วนอยู่แต่แสงสีและใส่สูท ใส่เดรสสวยๆ

 

การดำเนินเรื่องเรียกได้ว่าจริงอยู่ที่มันคือ Musical จะไม่ให้ร้องเพลงได้ยังไงล่ะะะ ข้อนี้เห็นด้วย แต่..หนังมันร้องเพลงเยอะจริงๆ เยอะจนเกือบเอียน บทจะมาก็มา จนบางตอนอยากฟังคุยกันบ้างแล้ว 5555 จะบอกว่าหลายๆ เพลงก็อาจไม่ได้ชวนสุนทรีย์ไป 100% บางช่วงน่ะได้ บางช่วงจังหวะก็อาจมียืดๆบ้าง อาจชวนง่วงในบางคนได้ แต่ภาคนี้คุณอาเธอร์กับคุณลีเค้ามีบทเพลงในหัวใจ

 

ซีนศาลตัดสินคดีและคุกแทบจะเกิน 80% มี flashback ภาพภาคก่อนมาแบบไวๆ (ควรดูภาคปี 2019 มาก่อนดูภาคนี้ เพราะจะเก็ตกว่า) ส่วนตัวชอบเพลง ‘What the world needs now’ มานาน พอดูจบ ฟังเพลงนี้ก็ติดภาพจากเรื่องนี้ไปแล้ว และเราก็ชอบโทนภาพของหนังในหลายๆ ตอนด้วย บางช่วงบางตอนมันก็มีความอาร์ตที่งดงามในตัวมันเอง สำหรับภาคนี้

 

ความสัมพันธ์ของลี(ฮาร์ลีย์)และโจ๊กเกอร์ เหมือนจะคอนเนคกัน มันบ้าคลั่งแหละ แต่ก็ไม่สุด เหมือนเค้าเอาตัวละครลีมาใช้บิ๊วท์ได้ไม่สุด (ในความรู้สึกส่วนตัวของเรา คนอื่นๆ อาจจะคิดต่างออกไป) รู้สึกว่าตัวหนังเองก็มีจุดบอดบางอย่าง ที่ยังไม่ได้ตอบคำถามให้คนดูอย่างแท้จริง ยังกำกวมในหลายข้อ

 

เนื้อหาใน Joker ภาคนี้ ยังคงมีฉากความรุนแรงระหว่างเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน … บางช่วงลุ้นๆ ดูไปปิดตาเสียวไป แต่โดยรวม ภาคที่แล้วเราว่าเค้าบิ๊วท์เนื้อหาเครียดกว่านี้มากๆ อันนั้นดูแล้วอึดอัด หดหู่ เครียด ซึ่งเราอาจจะ sensitive กับบางมู้ดของหนังในภาคแรกด้วย แต่ภาคนี้มันดูเครียดน้อยกว่าภาคแรกมาก นักแสดงเล่นดีเลย อยากชมคุณ Joaquin Phoenix บทอาเธอร์ เค้าใส่เต็มมากๆ ทั้งตอนหัวเราะใดๆ อารมณ์สีหน้าต่างๆ หัวเราะให้ดูอึดอัดตามได้ ส่วนคุณ Lady Gaga ก็เนื้อเสียงเพราะ ชอบฉากที่เต้นในความฝันมากๆ เค้าดูดึงดูดดี

 

เอาเป็นว่า ถ้าชอบภาคแรกมากๆ คาดหวังอะไรที่คล้ายเดิมมากๆ เราก็ไม่แน่ใจว่าจะชอบภาคนี้มั้ย เพราะมันคนละฟีลเลยแฮะ เข้าใจว่าทำไมหลายคนอาจผิดหวัง แต่ก็ไม่รับประกันว่าสายหนังเพลงดูแล้วจะชอบอีกเช่นกัน 5555 ปัจเจกสุดๆ แต่เอาเป็นว่าส่วนตัวว่าไม่แย่ และมองว่ายังเป็นหนังดี แต่ไม่ขนาดยอดเยี่ยม ก็นั่นแหละนิยามคำว่าดีของแต่ละคนก็ไม่เหมือนกัน ในทุกๆ สิ่งจะมีคนที่ชอบและไม่ชอบเสมอไม่ว่าจะเป็น หนัง หนังสือหรือเพลง สัตว์ อาหาร ยังไงถ้าสนใจในตัวละคร Joker ก็อยากให้ลองไปดูด้วยตัวเองอีกที

 

#หนังใหม่ #JokerFolieàDeux #โจ๊กเกอร์โฟลีย์อาเดอ

 

กลับด้านบน

Report this page